การจัดการองค์ความรู้องค์กร ให้เชื่อมโยงกับธุรกิจและกระบวนการทำงาน รุ่นที่ 11 (Knowledge Management link to Business and Procedure) : 11 มีนาคม 2568
หลายองค์กรเข้าใจว่า การจัดทำเว็บไซด์การจัดการความรู้ หรือซื้อระบบ/โปรแกรมเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นการจัดการความรู้ในองค์กรที่เพียงพอแล้ว นั่นเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนของการจัดการความรู้ ข้อกำหนดของ ISO9001:2015 ข้อ 7.1.6 ความรู้องค์กร (Organizational Knowledge) กำหนดว่า “องค์กรต้องพิจารณากำหนดความรู้ที่จำเป็นสำหรับการดำเนินงานกระบวนการ และเพื่อให้สอดคล้องของผลิตภัณฑ์และบริการ ความรู้ต้องได้รับการธำรงรักษาทำให้มีอยู่ตามขอบเขตที่จำเป็น เมื่อมีการระบุความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงและแนวโน้ม องค์กรต้องพิจารณาความรู้ในปัจจุบัน และพิจารณาวิธีการทำให้ได้มาหรือเข้าถึงความรู้เพิ่มเติมที่จำเป็น และความต้องการที่ทำให้ทันสมัย” นอกจากปัญหาข้างต้นแล้วอาจประสบกับปัญหาการจัดการความรู้เหล่านี้ อาทิเช่น
- แหล่งความรู้องค์กรมาจากที่ใดบ้าง ?
- ความรู้องค์กรเรื่องใดที่ต้องได้รับการจัดการ ?
- ต้องจัดการความรู้องค์กรแค่ไหนถึงจะพอ และสอดคล้องกับข้อกำหนดของ ISO9001 ?
- ใครควรมีหน้าที่ในการจัดการความรู้องค์กร ?
- มีวิธีการใดบ้างในการสกัดความรู้และประสบการณ์ของบุคลากรในองค์กร ?
- จะใช้วิธีการใดในการส่งมอบ ถ่ายทอด หรือแลกเปลี่ยนความรู้องค์กร ?
- อื่น ๆ
หลักสูตรฝึกอบรมนี้สถาบันฯ ได้ออกแบบและพัฒนาขึ้นจาก เพื่อช่วยให้องค์กรของท่านแก้ไขปัญหาการจัดการองค์ความรู้อย่างเป็นระบบให้สอดคล้องกับธุรกิจและข้อกำหนดของ ISO9001 ในรูปแบบของการเรียนรู้ที่ “กระชับ เข้าใจง่าย และนำมาปรับใช้ปฏิบัติงานได้จริง พร้อมแบบฟอร์มที่เกี่ยวข้อง”
วัตถุประสงค์ของการเรียนรู้ : เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรม
- สามารถอธิบายหลักการ แนวคิด ขั้นตอน และเทคนิคการจัดการความรู้องค์กรได้
- เสริมสร้างเทคนิคการดำเนินการจัดการความรู้อย่างเป็นระบบ และสร้าง Value Added ให้กับองค์กรด้วยการจัดการความรู้
- สามารถแปลงหลักการสำคัญของระบบการจัดการความรู้สู่การปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม
- สามารถวิเคราะห์หาและกำหนดความรู้องค์กรจาก Procedure, Work Instruction ด้วย Competency Matrix ที่สอดคล้องกับธุรกิจได้อย่างชัดเจนเป็นรูปธรรม และมีประสิทธิภาพ
- สามารถวิเคราะห์หาและคัดเลือกผู้รู้ในองค์กร (GURU) เพื่อดูดซับและถ่ายทอดความรู้ ด้วย Competency Matrix ได้อย่างชัดเจนเป็นรูปธรรม และมีประสิทธิภาพ
- สามารถนำความรู้และเทคนิคที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ในการทำงาน และรองรับการ Audit เกี่ยวกับองค์ความรู้องค์กรได้อย่างเป็นรูปธรรม
หัวข้อสำคัญของการเรียนรู้ :
ส่วนที่ 1 : ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการจัดการความรู้ (Knowledge Management Introduction)
- รหัสลับของความรู้องค์กร ข้อกำหนด 7.1.6 ของ ISO9001:2015
- ความเหมือนและความแตกต่างของ องค์ความรู้ ข้อ 7.1.6 และการจัดการความสามารถ ข้อ 7.2 (Organizational Knowledge VS Competency Management)
- การจัดการความรู้ (Knowledge Management) คือ อะไร ?
- วัตถุประสงค์ของการจัดการความรู้
- จัดการความรู้แล้วจะได้ประโยชน์อะไรบ้าง ?
- แนวคิดในการจัดการความรู้
- ชนิดของความรู้ (Type of Knowledge)
- ใครควรมีหน้าที่ในการจัดการความรู้องค์กร ?
ส่วนที่ 2 : การแปลงหลักการระบบการจัดการความรู้สู่การปฏิบัติ (Exchanging of Knowledge Management System Principles into Practice)
- หลักการ 8 ข้อของระบบการจัดการความรู้ (ISO 30401:2018)
- Workshop 1 : ฝึกวิเคราะห์แนวทางการแปลง 8 หลักการของระบบการจัดการความรู้สู่การปฏิบัติ
ส่วนที่ 3 : 8 ขั้นตอนของระบบการจัดการความรู้องค์กร (Knowledge Management Process)
- 8 ขั้นตอนของระบบการจัดการความรู้องค์กร
- ภาพรวมของการจัดการองค์ความรู้ให้เชื่อมโยงวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมาย และกลยุทธ์องค์กร จาก Procedure และ Work Instruction
ส่วนที่ 4 : เทคนิคการค้นหาและกำหนดความรู้องค์กรจาก Procedure และ Work Instruction ด้วย Competency Matrix ที่สอดคล้องกับธุรกิจ (Knowledge Vision based on Competency Matrix : KV)
- 6 แหล่งขุมทรัพย์ความรู้ขององค์กรในการกำหนด Competency Matrix ของหน่วยงาน
- 6 ความรู้หลักขององค์กรที่ต้องได้รับการจัดการให้สอดคล้องกับธุรกิจและข้อกำหนด ISO 9001 (Knowledge Vision : KV)
- แนวทางการค้นหาและกำหนดหัวข้อความรู้องค์กรจาก Procedure และ Work Instruction ด้วย Competency Matrix
- ตัวอย่างที่ 1 : การวิเคราะห์หาและกำหนดหัวข้อความรู้องค์กรจาก Procedure และ Work Instruction ด้วย Competency Matrix
- Workshop 2 : ฝึกปฏิบัติวิเคราะห์หาและกำหนดหัวข้อความรู้องค์กรจาก Procedure และ Work Instruction ด้วย Competency Matrix
ส่วนที่ 5 : เทคนิคการค้นหาและคัดเลือกผู้รู้ในองค์กร เพื่อดูดซับและถ่ายทอดความรู้ ด้วย Competency Matrix (GURU Analysis based on Competency Matrix)
- เทคนิคการค้นหาและคัดเลือก GURU ในองค์กรอย่างเป็นรูปธรรม
- ตัวอย่างที่ 2 : การค้นหาและคัดเลือก GURU ในองค์กร จาก Competency Matrix
- Workshop 3 : ฝึกปฏิบัติวิเคราะห์หาและคัดเลือก GURU ในองค์กร
- 9 แนวทางการดูดซับความรู้และประสบการณ์จาก GURU สู่องค์กร
ส่วนที่ 6 : 12 แนวทางการส่งมอบ ถ่ายทอด และแลกเปลี่ยนความรู้ (Knowledge Sharing : KS)
- 12 แนวทางการส่งมอบ ถ่ายทอด และแลกเปลี่ยนความรู้
- ตัวอย่าง แนวทางปฏิบัติในการสกัดและสร้างองค์ความรู้องค์กร
หลักสูตรนี้เหมาะสมสำหรับ :
ผู้บริหารระดับสูง ผู้อำนวยการฝ่าย ผู้จัดการฝ่าย ผู้จัดการแผนก หัวหน้าแผนกทุกสายงาน และเจ้าหน้าที่ DCC
รูปแบบ/วิธีการเรียนรู้
o การบรรยาย (Lecture) แบบ Adult Learning
o การทำ Workshop เชิงปฏิบัติการ
o การนำเสนอและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น (Discussion) เรียนรู้ซึ่งกันและกัน
o การตอบข้อซักถาม : เพื่อเสริมสร้างความรู้เข้าใจที่ชัดเจน และกระตุ้นผู้เรียนรู้ให้คิดตาม
วิทยากร : อาจารย์ ธนุเดช ธานี (อ.ต้น)
- กรรมการผู้จัดการสถาบันฝึกอบรม People Develop Center
- วิทยากรและที่ปรึกษาผู้ชำนาญการพิเศษด้าน HR จากประสบการณ์ 35 ปี
- วิทยากรพิเศษด้าน HRD ของ SGS ACADEMY
- วิทยากรพิเศษด้าน HR คณะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA)
- อดีตกรรมการสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย (PMAT) 2 สมัย
วันและเวลาสัมมนา :
รุ่นที่ 11 วันที่ 11 มีนาคม 2568 ระหว่างเวลา 09.00-16.00 น.
สถานที่สัมมนา :
REMBRANDT HOTEL สุขุมวิท 18, 20 กรุงเทพฯ (ใกล้สถานี BTS อโศก)
ค่าลงทะเบียนอบรม
พิเศษ 1 เพียง 3,900 บาท/ท่าน (ไม่รวม Vat) ลงทะเบียนล่วงหน้าก่อนการอบรม 7 วันทำการ
ราคาปกติ 4,200 บาท/ท่าน (ไม่รวม Vat)
พิเศษ 2 ลงทะเบียน 5 ท่าน ชำระเพียง 4 ท่าน
วิธีการชำระค่าลงทะเบียน :
โอนเงิน หรือเช็คขีดคร่อมในนาม บริษัท พีเพิล ดีเวลลอป เซ็นเตอร์ จำกัด หรือ People Develop Center Co., Ltd.
ธนาคารไทยพาณิชย์จำกัด(มหาชน) สาขาถนนลาดปลาดุก (หมู่บ้านพฤกษา 3) บัญชีเงินฝากออมทรัพย์เลขที่ 4057769552
บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหากมีค่าธรรมเนียมในการโอนเกิดขึ้น
ค่าธรรมเนียมในการโอนเงิน (ถ้ามี) ผู้โอนเงินต้องเป็นผู้ชำระค่าธรรมเนียมเอง
คำแนะนำในการชำระค่าลงทะเบียน
- โปรดส่งสำเนาใบโอนเงิน พร้อมเอกสารหักภาษี ณ ที่จ่าย 3% ระบุชื่อบริษัท ชื่อหลักสูตร Scan ส่งเมล์มาที่ peopledevelop@outlook.com ในวันโอนเงิน
- เอกสารหักภาษี ณ ที่จ่ายตัวจริงกรุณานำมาให้ในวันอบรม กรณีเอกสารไม่ครบจะต้องชำระส่วนเพิ่มเป็นเงินสดที่หน้างาน
ข้อมูลเพื่อออกใบหักภาษี ณ ที่จ่าย
บริษัท พีเพิล ดีเวลลอป เซ็นเตอร์ จำกัด เลขที่ 22/20 หมู่ 6 ตำบลบางคูรัด อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี 11110
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี 0125558000502
กรณียกเลิกการอบรมกรุณาแจ้งล่วงหน้า 7 วันก่อนอบรม หากหลังจากนั้นกรุณาชำระเงิน 30% ของค่าอบรมเพื่อรับเอกสาร
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : คุณฐิตาภา (ไก่) เหมะสิขัณฑกะ
Tel : 095-853-5513, 091-738-7838
E-mail : peopledevelop@outlook.com