การจัดการองค์ความรู้องค์กร ให้เชื่อมโยงกับธุรกิจและกระบวนการทำงาน รุ่นที่ 11 (Knowledge Management link to Business and Procedure) : 11 พฤษภาคม 2567

หลายองค์กรเข้าใจว่า การจัดทำเว็บไซด์การจัดการความรู้ หรือซื้อระบบ/โปรแกรมเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นการจัดการความรู้ในองค์กรที่เพียงพอแล้ว  นั่นเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนของการจัดการความรู้  ข้อกำหนดของ ISO9001:2015 ข้อ 7.1.6 ความรู้องค์กร (Organizational Knowledge) กำหนดว่า “องค์กรต้องพิจารณากำหนดความรู้ที่จำเป็นสำหรับการดำเนินงานกระบวนการ และเพื่อให้สอดคล้องของผลิตภัณฑ์และบริการ  ความรู้ต้องได้รับการธำรงรักษาทำให้มีอยู่ตามขอบเขตที่จำเป็น เมื่อมีการระบุความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงและแนวโน้ม องค์กรต้องพิจารณาความรู้ในปัจจุบัน และพิจารณาวิธีการทำให้ได้มาหรือเข้าถึงความรู้เพิ่มเติมที่จำเป็น และความต้องการที่ทำให้ทันสมัย”  นอกจากปัญหาข้างต้นแล้วอาจประสบกับปัญหาการจัดการความรู้เหล่านี้ อาทิเช่น 

  • แหล่งความรู้องค์กรมาจากที่ใดบ้าง ?
  • ความรู้องค์กรเรื่องใดที่ต้องได้รับการจัดการ ?
  • ต้องจัดการความรู้องค์กรแค่ไหนถึงจะพอ และสอดคล้องกับข้อกำหนดของ ISO9001 ?
  • ใครควรมีหน้าที่ในการจัดการความรู้องค์กร ?
  • มีวิธีการใดบ้างในการสกัดความรู้และประสบการณ์ของบุคลากรในองค์กร ?
  • จะใช้วิธีการใดในการส่งมอบ ถ่ายทอด หรือแลกเปลี่ยนความรู้องค์กร ?
  • อื่น ๆ

หลักสูตรฝึกอบรมนี้สถาบันฯ ได้ออกแบบและพัฒนาขึ้นจาก เพื่อช่วยให้องค์กรของท่านแก้ไขปัญหาการจัดการองค์ความรู้อย่างเป็นระบบให้สอดคล้องกับธุรกิจและข้อกำหนดของ ISO9001 ในรูปแบบของการเรียนรู้ที่ “กระชับ เข้าใจง่าย และนำมาปรับใช้ปฏิบัติงานได้จริง พร้อมแบบฟอร์มที่เกี่ยวข้อง” 

 

วัตถุประสงค์ของการเรียนรู้ : เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรม 

  1. สามารถอธิบายหลักการ แนวคิด ขั้นตอน และเทคนิคการจัดการความรู้องค์กรได้
  2. เสริมสร้างเทคนิคการดำเนินการจัดการความรู้อย่างเป็นระบบ และสร้าง Value Added ให้กับองค์กรด้วยการจัดการความรู้
  3. สามารถแปลงหลักการสำคัญของระบบการจัดการความรู้สู่การปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม
  4. สามารถวิเคราะห์หาและกำหนดความรู้องค์กรจาก Procedure, Work Instruction ด้วย Competency Matrix ที่สอดคล้องกับธุรกิจได้อย่างชัดเจนเป็นรูปธรรม และมีประสิทธิภาพ
  5. สามารถวิเคราะห์หาและคัดเลือกผู้รู้ในองค์กร (GURU) เพื่อดูดซับและถ่ายทอดความรู้ ด้วย Competency Matrix ได้อย่างชัดเจนเป็นรูปธรรม และมีประสิทธิภาพ
  6. สามารถนำความรู้และเทคนิคที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ในการทำงาน และรองรับการ Audit เกี่ยวกับองค์ความรู้องค์กรได้อย่างเป็นรูปธรรม 

หัวข้อสำคัญของการเรียนรู้ :  

ส่วนที่  1  :  ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการจัดการความรู้ (Knowledge Management Introduction)

  • รหัสลับของความรู้องค์กร ข้อกำหนด 7.1.6 ของ ISO9001:2015
  • ความเหมือนและความแตกต่างของ องค์ความรู้ ข้อ 7.1.6 และการจัดการความสามารถ ข้อ 7.2 (Organizational Knowledge VS Competency Management)
  • การจัดการความรู้ (Knowledge Management) คือ อะไร ? 
  • วัตถุประสงค์ของการจัดการความรู้
  • จัดการความรู้แล้วจะได้ประโยชน์อะไรบ้าง ?
  • แนวคิดในการจัดการความรู้
  • ชนิดของความรู้ (Type of Knowledge)
  • ใครควรมีหน้าที่ในการจัดการความรู้องค์กร ?

ส่วนที่  2  : การแปลงหลักการระบบการจัดการความรู้สู่การปฏิบัติ (Exchanging of Knowledge Management System Principles into Practice)

  • หลักการ 8 ข้อของระบบการจัดการความรู้ (ISO 30401:2018)
  • Workshop 1 : ฝึกวิเคราะห์แนวทางการแปลง 8 หลักการของระบบการจัดการความรู้สู่การปฏิบัติ

ส่วนที่  3  :  8 ขั้นตอนของระบบการจัดการความรู้องค์กร (Knowledge Management Process)

  • 8 ขั้นตอนของระบบการจัดการความรู้องค์กร
  • ภาพรวมของการจัดการองค์ความรู้ให้เชื่อมโยงวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมาย และกลยุทธ์องค์กร จาก Procedure และ Work Instruction 

ส่วนที่  4  :  เทคนิคการค้นหาและกำหนดความรู้องค์กรจาก Procedure และ Work Instruction ด้วย Competency Matrix ที่สอดคล้องกับธุรกิจ (Knowledge Vision based on Competency Matrix : KV)

  • 6 แหล่งขุมทรัพย์ความรู้ขององค์กรในการกำหนด Competency Matrix ของหน่วยงาน
  • 6 ความรู้หลักขององค์กรที่ต้องได้รับการจัดการให้สอดคล้องกับธุรกิจและข้อกำหนด ISO 9001 (Knowledge Vision : KV)
  • แนวทางการค้นหาและกำหนดหัวข้อความรู้องค์กรจาก Procedure และ Work Instruction ด้วย Competency Matrix
  • ตัวอย่างที่ การวิเคราะห์หาและกำหนดหัวข้อความรู้องค์กรจาก Procedure และ Work Instruction ด้วย Competency Matrix
  • Workshop 2 : ฝึกปฏิบัติวิเคราะห์หาและกำหนดหัวข้อความรู้องค์กรจาก Procedure และ Work Instruction ด้วย Competency Matrix

ส่วนที่  5  :  เทคนิคการค้นหาและคัดเลือกผู้รู้ในองค์กร เพื่อดูดซับและถ่ายทอดความรู้ ด้วย Competency Matrix (GURU Analysis based on Competency Matrix)

  • เทคนิคการค้นหาและคัดเลือก GURU ในองค์กรอย่างเป็นรูปธรรม
  • ตัวอย่างที่ การค้นหาและคัดเลือก GURU ในองค์กร จาก Competency Matrix
  • Workshop 3 : ฝึกปฏิบัติวิเคราะห์หาและคัดเลือก GURU ในองค์กร
  • 9 แนวทางการดูดซับความรู้และประสบการณ์จาก GURU สู่องค์กร 

ส่วนที่  6  :  12 แนวทางการส่งมอบ ถ่ายทอด และแลกเปลี่ยนความรู้ (Knowledge Sharing : KS)

  • 12 แนวทางการส่งมอบ ถ่ายทอด และแลกเปลี่ยนความรู้ 
  • ตัวอย่าง แนวทางปฏิบัติในการสกัดและสร้างองค์ความรู้องค์กร

หลักสูตรนี้เหมาะสมสำหรับ :

ผู้บริหารระดับสูง ผู้อำนวยการฝ่าย ผู้จัดการฝ่าย ผู้จัดการแผนก หัวหน้าแผนกทุกสายงาน และเจ้าหน้าที่ DCC 

รูปแบบ/วิธีการเรียนรู้ 

o  การบรรยาย (Lecture)  แบบ Adult Learning

o  การทำ Workshop เชิงปฏิบัติการ

o  การนำเสนอและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น (Discussion) เรียนรู้ซึ่งกันและกัน

o  การตอบข้อซักถาม : เพื่อเสริมสร้างความรู้เข้าใจที่ชัดเจน และกระตุ้นผู้เรียนรู้ให้คิดตาม  

วิทยากร : อาจารย์ ธนุเดช  ธานี (อ.ต้น)

  • กรรมการผู้จัดการสถาบันฝึกอบรม People Develop Center  
  • วิทยากรและที่ปรึกษาผู้ชำนาญการพิเศษด้าน HR จากประสบการณ์ 34 ปี
  • วิทยากรพิเศษด้าน HRD ของ SGS ACADEMY
  • วิทยากรพิเศษด้าน HR คณะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA)
  • อดีตกรรมการสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย (PMAT) 2 สมัย

วันและเวลาสัมมนา  :

รุ่นที่  11  วันที่  11  พฤษภาคม  2567  ระหว่างเวลา 09.00-16.00 น.  

สถานที่สัมมนา : 

โรงแรมเซนต์เจมส์ สุขุมวิท 26 กรุงเทพฯ (ใกล้สถานี BTS พร้อมพงษ์)

ค่าลงทะเบียนอบรม 

พิเศษ 1 เพียง 3,700 บาท/ท่าน (ไม่รวม Vat) ลงทะเบียนล่วงหน้าก่อนการอบรม 7 วันทำการ

             ราคาปกติ 4,200 บาท/ท่าน (ไม่รวม Vat)

พิเศษ 2 ลงทะเบียน 5 ท่าน ชำระเพียง 4 ท่าน

วิธีการชำระค่าลงทะเบียน :

โอนเงิน หรือเช็คขีดคร่อมในนาม บริษัท พีเพิล ดีเวลลอป เซ็นเตอร์ จำกัด หรือ People Develop Center Co., Ltd.  

ธนาคารไทยพาณิชย์จำกัด(มหาชน) สาขาถนนลาดปลาดุก (หมู่บ้านพฤกษา 3) บัญชีเงินฝากออมทรัพย์เลขที่ 4057769552  

บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหากมีค่าธรรมเนียมในการโอนเกิดขึ้น  

ค่าธรรมเนียมในการโอนเงิน (ถ้ามี) ผู้โอนเงินต้องเป็นผู้ชำระค่าธรรมเนียมเอง  

คำแนะนำในการชำระค่าลงทะเบียน 

  • โปรดส่งสำเนาใบโอนเงิน พร้อมเอกสารหักภาษี ณ ที่จ่าย 3% ระบุชื่อบริษัท ชื่อหลักสูตร  Scan ส่งเมล์มาที่ peopledevelop@outlook.com ในวันโอนเงิน
  • เอกสารหักภาษี ณ ที่จ่ายตัวจริงกรุณานำมาให้ในวันอบรม กรณีเอกสารไม่ครบจะต้องชำระส่วนเพิ่มเป็นเงินสดที่หน้างาน 

ข้อมูลเพื่อออกใบหักภาษี ณ ที่จ่าย 
บริษัท พีเพิล ดีเวลลอป เซ็นเตอร์ จำกัด เลขที่ 22/20 หมู่ 6 ตำบลบางคูรัด อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี 11110 

เลขประจำตัวผู้เสียภาษี  0125558000502 

กรณียกเลิกการอบรมกรุณาแจ้งล่วงหน้า 7 วันก่อนอบรม หากหลังจากนั้นกรุณาชำระเงิน 30% ของค่าอบรมเพื่อรับเอกสาร   

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : คุณฐิตาภา (ไก่) เหมะสิขัณฑกะ  

Tel : 095-853-5513, 091-738-7838

E-mail : peopledevelop@outlook.com

Visitors: 285,471